สัมผัสกับแสงธรรมที่เปี่ยมล้มด้วยพระเมตตาคุณแห่งพระรัตนตรัย เปิดห่อคัมภีร์สดับพระธรรมพาตื่นรู้ นับตั้งแต่กลางเดือน 7 เป็นต้นมา ทางหอพระคัมภีร์ภายในวัดหลิงหยิ่นซื่อ เมืองหางโจว จัดให้มีกิจกรรมการเปิดพระคัมภีร์เพื่อรับสายลมแสงแดด โดยมีการอัญเชิญพระไตรปิฎกออกจากหอพระคัมภีร์ทุกวัน และทำการเปิดคัมภีร์ทุกหน้ามิมีว่างเว้น
อากาศที่ร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน อีกทั้งฤดูฝนลูกพลัมเพิ่งจะผ่านพ้นไป สภาพอากาศจึงชุ่มชื่น ทำให้วัตถุหลายอย่างสามารถติดเชื้อราหรือเน่าเสียได้ง่าย คัมภีร์ทางพุทธศาสนาที่สำคัญและทรงคุณค่าของวัด ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีตลอดระยะเวลาที่ยาวนานภายใน “หอพระคัมภีร์” จึงง่ายต่อการเกิดเชื้อราและแมลงสามง่าม เดือน 6 ตามปฏิทินจันทรคติจีนของทุกปีหลังจากที่ฤดูฝนลูกพลัมสิ้นสุดลง คณะพระธรรมาจารย์ผู้ประจำอยู่ในวัดหลิงหยิ่นซื่อร่วมกับทีมอาสาสมัครเมฆวนาจึงจัดให้มีการเปิดคัมภีร์และหนังสือต่างๆ เพื่อรับสายลมแสงแดด
ทีมอาสาสมัครชำระล้างมือแล้วจุดธูปเทียนบูชาพระ พระธรรมาจารย์นำสวดภาวนาเปิดพิธีพาพระคัมภีร์รับสายลมแสงแดด หลังจากนั้นคณะทำงานได้รวมตัวกัน เพื่ออัญเชิญพระคัมภีร์อันล้ำค่าออกมาจากตู้พระคัมภีร์ด้วยความเคารพอย่างระมัดระวัง มีความใส่ใจในการปัดฝุ่นผงต่างๆ รวมทั้งค่อยๆ บรรจงเปิดพระคัมภีร์อย่างประณีต ป้องกันเชื้อราและมอด ทีมอาสาสมัครได้ระลึกถึงพระคุณของ “พระธรรมรัตนะคือพระไตรปิฎก” ด้วยความเลื่อมใสและเคารพนอบน้อม พร้อมใจกันอธิษฐานอุทิศคุณงามความดีทั้งหลาย ขอให้แสงธรรมที่เปี่ยมล้มด้วยพระเมตตาคุณแห่งพระรัตนตรัยอันเป็นที่พึ่งที่อาศัย ทำให้สรรพสัตว์ได้รับประโยชน์จากคำสอนของพระพุทธองค์ทั่วกัน
การเปิดคัมภีร์หรือหนังสือเพื่อรับสายลมแสงแดง เป็นการรักษาคัมภีร์หรือหนังสือเล่มนั้นๆ ให้อยู่ในสภาพดี พร้อมทั้งทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น ขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอีกก้าวหนึ่งของพุทธศาสนิกชนสำหรับการสร้างเสริมความเข้าใจในเจตนารมณ์ของพระคัมภีร์ และยังทำให้ความจำของตนเองเพิ่มมากยิ่งขึ้น การปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความไม่หลงลืมโพธิจิตนี้เป็นการสร้างเหตุที่ดี เพราะนำมาซึ่งโพธิผลคือความตื่นรู้ในอนาคต
1765 人数