ช่วงบ่ายของวันที่ ๑๓ เดือนมิถุนายน วัดหลิงหยิ่นซื่อ เมืองหางโจว จัดตั้งคณะคฤหัสถ์เพื่อ
ดำเนินกิจกรรมปฏิบัติธรรมและขอขมากรรมระยะที่ ๑ ประจำปีเถาะ เพื่อสร้ างเหตุปัจจัยด้วยการขอ
ขมากรรมร่วมกัน ชักนำมหาชนให้ตั้งจิตขอขมาอกุศลกรรมในอดีต เพื่อขอให้พระรัตนตรัยอำนวยพร
ขจัดเหตุปัจจัยที่เป็นอกุศลกรรม และเจริญกุศลกรรมให้มั่นคง
ในช่วงบ่ายเวลา ๑๓.๐๐ น. คณะคฤหัสถ์ ๓๐๐ กว่าท่าน สวมใส่ เสื้อห่ายชิ งสำหรั บปฏิบัติธรรม
รวมตัวกัน ณ หอจื๋อจื่อถัง (หอชี้ตรง) วัดหลิงหยิ่นซื่อ ตั้งใจฟังเสียงบรรยายธรรม เรื่องความหมาย
ของการขมากรรมเบื้องต้นจากพระธรรมาจารย์ หลังจากนั้น พระธรรมาจารย์นำทุกคนสวดพระนาม
ของพระพุทธเจ้าว่า “หนา หมอ เปิ่น ซือ ซื่อ เจีย หมอ หนี ฝอ” (ขอนอบน้อมแด่พระบรมครูศากย
มุนีพุทธเจ้า) เป็นท่วงทำนองที่ไพเราะจับใจ สลับกันกราบและตั้งปณิธาน กำหนดแบ่งเป็น ๒ ฝั่งซ้าย
ขวา เสียงสวดมนต์ดังกังวานประดุจเสียงพรหม ทำให้พิธีนี้งดงามเป็นอย่างยิ่ง
การขอขมากรรม มาจากภาษาสันสกฤตว่า “กฺษม” (หรือ “กฺษมยติ ” ภาษาบาลี ว่า “ขมา”)
แปลทับศั พท์เป็นเสียงภาษาจีนว่า “ชั่นหมอ” เรียกโดยย่อว่า “ชั่น” มีความหมายว่า “สำนึกผิด”
ดังนั้น มักจะเรียกรวมกันว่า “ชั่นหุ่ย” (การขอขมากรรมสำนึกผิด) เป็นการรู้จักข้อผิดผลาด และ
อกุศลกรรมของตนที่ได้เคยกระทำมาแล้วในอดีต ซึ่งเป็นการกระทำที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด นำมาซึ่งโทษ
และความทุกข์ทั้งทางกายและทางใจ ในขณะเดียวกันยังแสดงออกถึงการสำนึกผิดในบาปต่อเบื้องหน้าพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งหลายในทศทิศ ด้วยการตั้งความปรารถนาไม่กระทำอกุศลกรรม
ใหม่ขึ้นอีกต่อไป การขมากรรมเบื้องหน้าพระพุทธองค์จะประกอบไปด้วยการกราบพระ การสำนึกผิด
และการตั้งปณิธาน เพื่อให้บริสุทธิ์ทั้งกายและใจ เป็นวัตรปฏิบัติร่วมกันรูปแบบหนึ่งที่พบเห็นได้เป็น
ปกติในวัดวาอาราม และเป็นการรวมพลังที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเปลี่ยนแปลงการความประพฤติของผู้ปฏิบัติ
ให้ขจัดความฟุ้งซ่านและความเกียจคร้านออกไป ค่อย ๆ ขจัดอกุศลเจริญในธรรม สั่งสมกุศลสมภาร
ให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตราบบรรลุถึงพระนิพพาน
986 人数